Search This Blog

BEM ราคากระตุก..มีอะไรให้ลุ้นช่วงครึ่งปีหลัง? - efinanceThai

ronametro.blogspot.com
BEM ราคากระตุก..มีอะไรให้ลุ้นช่วงครึ่งปีหลัง?

หุ้นเด่นวันนี้

BEM ราคากระตุก..มีอะไรให้ลุ้นช่วงครึ่งปีหลัง?

BEM นับเป็นหุ้นอีกตัวที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรงจากวิกฤติโควิด-19 เพราะคนชะลอเดินทาง ซึ่งจะสะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาส 2/63 ที่่คาดว่าจะอ่อนแอมาก แต่ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยคลี่คลายลงไปแล้ว ผลงานตั้งแต่ไตรมาส 3/63 จะดีขึ้นอย่างที่คาดหรือไม่? และมีปัจจัยอะไรเข้ามาหนุนบ้าง ...โปรดติดตาม! 


*** ราคากระตุก รับยอดใช้ทางด่วน-รถไฟฟ้า กลับสู่ภาวะปกติ

ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดซื้อขายวันนี้ (23 ก.ค) อยู่ในแดนบวกสวนทางดัชนีหุ้นไทยที่ผันผวน โดยราคาทำจุดสูงสุดของรอบเช้าที่ 9.15 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.55% มีมูลค่าการซื้อขาย 113.3 ล้านบาท

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น BEM กลับมาคึกคักอีกครั้ง คงหนีไม่พ้นข่าวที่ผู้บริหาร BEM เพิ่งออกมาประกาศว่าจำนวนรถยนต์ใช้ทางด่วน และผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินในเดือน ก.ค. กลับสู่ระดับปกติแล้ว ซึ่งรายได้จากสองธุรกิจดังกล่าว เป็นรายได้หลักของ BEM นั่นเอง 

***โบรกฯคาดกำไร Q2/63 ทรุดหนัก จากมาตรการล็อกดาวน์

โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเชีย เวลท์ ประเมินว่า การายงานงบไตรมาส 2/63 ของ BEM ในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ จะมีกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท ลดลง 98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 85% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าจะรับรู้รายได้จากเงินปันผลบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW จำนวน 220 ล้านบาท แต่ไม่สามารถชดเชยได้ 

เนื่องจาก 2 ธุรกิจหลักของ BEM ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์อย่างรุนแรง ส่งผลให้ธุรกิจบริหารทางด่วนในช่วงไตรมาส 2/63 มีรถยนต์ใช้บริการ อยู่ที่ 8 แสนเที่ยวต่อวัน ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.5 ล้านบาท ลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วน ธุรกิจรถไฟฟ้าใต้ดินในช่วงไตรมาส 2/63 มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 1.33 แสนเที่ยวคน ลดลง 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.7 ล้านบาท ลดลง 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เช่นเดียวกับ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่คาดว่าการล็อกดาวน์ จะส่งผลให้ BEM รายงานกำไรช่วงไตรมาส 2/63 ลดลง 93% ใกล้เคียงกับ บล. เอเชีย เวลท์ ประเมินไว้ข้างต้น

*** โบรกฯคาด Q3 ฟื้นแรง ผู้ใช้ทางด่วน-รถไฟฟ้า กลับสู่ปกติ

บทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินว่าช่วงไตรมาส 3/63 ผลประกอบการของ BEM จะกลับมาฟื้นตัวแรง โดยคาดว่า BEM จะรายงานกำไรสุทธิ 1,147 ล้านบาท จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าไตรมาส 3/63 เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้อยค่าสัมปทานทางด่วนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ประเมินว่าจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ตั้งแต่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว 

โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ปริมาณรถใช้ทางด่วนเพิ่มขึ้นแตะ1.2 ล้านคันต่อวัน และผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินแตะ 3 แสนเที่ยวคนต่อวัน ซึ่งจะเห็นว่าเป็นภาพหดตัวเพียง 3% และ 10% ตามลำดับ จากค่าเฉลี่ยปี 62 ดังนั้นจึงเชื่อว่าไตรมาส 3/63 จะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนได้เป็นอย่างดี


***โบรกฯ มั่นใจ BEM ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังมองประเด็นบวกเพิ่มอีก 1 ประเด็น คือ คาดว่า  BEM จะเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)  หลังจากเข้ายื่นซองประมูลไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดย บล. เอเชีย เวลท์ ประเมินว่า BEM มีโอกาสชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เนื่องจากยังเชื่อในศักยภาพ และความได้เปรียบของ BEM โดยเฉพาะการเข้าร่วมประมูลกับ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ที่มีประสบการณ์และศักยภาพ ในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นอย่างดี

ขณะที่เส้นทางดังกล่าวยังเชื่อมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานทีบางขุนนท์ และสถานีศูนย์วัฒนธรรม) ที่ BEM ดูแลอยู่ และคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ภายในเดือน ธ.ค. 63

*** โบรกฯคาดทั้งปีกำไรหดตัว แม้ครึ่งปีหลังฟื้นแรง

แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลประกอบการของ BEM จะฟื้นตัวแรงขึ้นในช่วงไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป แต่อาจไม่สามารถชดเชยความรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรกที่ถูกการแพร่ระบาดของโควิด-19 กดดันผลประกอบการทรุดตัวหนักได้

โดย บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ของ BEM ลง 18.7% เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินปี 63 จะลดลง 6.3% เนื่องจากมีนโยบายห้ามทำการบินระหว่างประเทศ ตั้งแต่เดือนเม.ย. เป็นต้นมา ขณะเดียวกัน นโยบายการท่องเที่ยว"travel bubble" อาจต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ  

*** โบรกฯส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ" 

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" BEM จากความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการไตรมาส 3/63 จะฟื้นตัวแรง จากปริมาณรถยนต์ใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินใกล้กลับสู่สภาวะปกติ ตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป

บล.                       คำแนะนำ        ราคาเหมาะสม (บ.)
เคทีบี                        ถือ                   10
ดีบีเอสวิคเคอร์ส       ซื้อ                   10.70
เคจีไอ                      ซื้อ                   10.80
โนมูระ พัฒนสิน        ซื้อ                   11.10
เอเชียเวลท์              ซื้อ                    12.50
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง      ซื้อ                    13
        ราคาเฉลี่ย                                 11.35


หากนักลงทุนยังมั่นใจว่าจำนวนผู้ใช้ทางด่วน และผู้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในช่วงครึ่งปีหลัง จะฟื้นตัวได้ใกล้เคียงกับปีก่อนได้จริง รวมทั้งมีโอกาสเป็นผู้ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม การเข้าลงทุน BEM ก็อาจเป็นเรื่องน่าสนใจ แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เท่านั้น! 

ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม


Let's block ads! (Why?)



"รถไฟฟ้าใต้ดิน" - Google News
July 23, 2020 at 01:57PM
https://ift.tt/2WPcNd2

BEM ราคากระตุก..มีอะไรให้ลุ้นช่วงครึ่งปีหลัง? - efinanceThai
"รถไฟฟ้าใต้ดิน" - Google News
https://ift.tt/36uhhJn
Home To Blog


Bagikan Berita Ini

0 Response to "BEM ราคากระตุก..มีอะไรให้ลุ้นช่วงครึ่งปีหลัง? - efinanceThai"

Post a Comment

Powered by Blogger.